การดูแลผู้ป่วยเจาะคอที่บ้าน
การเจาะคอเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยควบคุมทางเดินหายใจของผู้ป่วย เพื่อบรรเทาการอุดกั้นในระบบทางเดินหายใจส่วนบน เพื่อให้ใช้เครื่องช่วยหายใจเป็นระยะเวลานานได้โดยไม่มีผลข้างเคียงของการใส่ท่อช่วยหายใจเป็นระยะเวลานาน เพื่อสามารถดูดเสมหะในท่อลมและหลอดลมได้ดีขึ้น และเพื่อชวยปกป้องทางเดินหายใจส่วนล่างในผู้ป่วยที่มีการสำลักหรือไม่สามารถไอได้ ซึ่งการดูแลผู้ป่วยเจาะคอมีความจำเป็นในการดูแลต่อเนื่องตั้งแต่อยู่โรงพยาบาลทั้งในหอผู้ป่วยวิกฤต หอผู้ป่วยสามัญ จนกระทั่งการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน โดยมีการประสานงานกับทีมสหสาขาวิชาชีพ การเจาะคอนอกจากจะส่งผลกระทบต่อให้ผู้ป่วยทั้งความกังวล การสูญเสียความมั่นใจ ความรู้สึกไม่ดีต่อภาพลักษณ์ของตนเองหรือการมีข้อจำกัดจากการเจาะคอ เช่น ข้อจำกัดด้านการสื่อสาร อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อความกังวลในการดูแลผู้ป่วยของครอบครัว แต่จริงๆ แล้ว การดูแลผู้ป่วยเจาะคอนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด โดยในบทความนี้จึงทำขึ้นเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยเจาะคอที่บ้าน
ท่อหลอดลมคอคืออะไร?
ท่อหลอดลมคอ คือท่อที่ใส่เข้าไปในหลอดลมคอภายหลังการเจาะคอ (tracheostomy) โดยใส่ผ่านผิวหนังและกล้ามเนื้อคอ เพื่อให้อากาศสามารถผ่านเข้าสู่หลอดลมและปอดโดยไม่ต้องผ่านช่องจมูกและลำคอส่วนบน และยังเป็นทางให้ผู้ป่วยไอเอาเสมหะออกจากหลอดลม หรือดูดเสมหะออกจากหลอดลมได้
การเจาะคอคืออะไร?
การเจาะคอ หมายถึง การสร้างทางติดต่อระหว่างหลอดลมกับผิวหนัง บริเวณด้านหน้าของลำคอ ทำให้อากาศสามารถผ่านเข้าปอด โดยไม่ผ่านช่องจมูก และใส่ท่อคาไว้ เพื่อใช้เป็นทางผ่านของลมหายใจเข้า-ออก
ผู้ป่วยประเภทใดบ้างที่ต้องเจาะคอ?
1. มีการอุดกั้น ทางเดินหายใจ เช่น เป็นโรดคอตีบ หลอดลมคออุดตัน มะเร็งที่คอ กล่องเสียงทะลุจากอุบัติเหตุ มีสิ่งแปลกปลอม ในกล่องเสียงหรือหลอดลม เป็นอัมพาตของสายเสียง เป็นตัน
2. เกิดการคั่งของเสมหะ ไม่สามารถไอ เอาเสมหะออกเองได้ มีอาการหายใจลำบาก
3. ได้รับการผ่าตัดบริเวณศีรษะและคอ หรือผู้ป่วยที่มีปัญหาต้องใส่ท่อช่วยหายใจ เป็นเวลานานเกิน 1 สัปดาห์
วัตถุประสงค์ของการดูแลผู้ป่วยเจาะคอ
1. เพื่อให้ผู้ป่วยหายใจสะดวก ป้องกันการอุดตันของท่อทางเดินหายใจ
2.ป้องกันการติดเชื้อของทางเดินหายใจ และบริเวณแผลเจาะคอ
3. เพื่อช่วยเอาเสมหะออกให้ ในรายที่ไม่สามารถไอ เอาเสมหะออกได้เอง
4. เพื่อสังเกตอาการผิดปกติ และการเปลี่ยนแปลงของระบบทางเดินหายใจ
การดูแลท่อหลอดลม (ดูดเสมหะ)
1. สามารถดูดเสมหะจากท่อหลอดลมคอได้ 2 ทางเลือก โดยใช้ลูกยางแดง หรือใช้สายที่ต่อกับเครื่องดูด
เสมหะ
1. 1. หากเลือกใช้ลูกยางแดง ให้บีบลมก่อนใส่ปลายลูกยางแดงเข้าไปในห่อหลอดลมคอลึกประมาณ 1 นิ้ว จึง
ปล่อยลูกยางแดงให้ดูดสมหะเข้ามาในลูกยางแดง และหลังจากใช้เสร็จให้ทำความสะอาดลูกยางแดงด้วยน้ำสบู่น้ำร้อนและผึ่งให้แห้งทุกครั้ง
1 . 2. หากเลือกใช้สายที่ต่อกับเครื่องดูดสมหะให้ใสถุงมือปราศจากเชื้อ ก่อนจับสายดูดเสมหะและต้องใช้เทคนิคปราศจากเชื้อตลอดเวลาที่ดูดเสมหะ
*ไม่แนะนำให้ทำการดูดเสมหะหลังจากรับประทานอาหารเสร็จทันที เนื่องจากเสี่ยงต่อการสำลักอาหาร
2 . ควรทำความสะอาดท่อหลอดลมคอวันละ 2 ครั้ง เพื่อป้องกันท่อหลอดลมคออุดตัน
3 . ควรทำความสะอาดรูเจาะคอพร้อมกับเปลี่ยนผ้าก๊อสรองท่อเจาะคอเมื่อผ้าก๊สรองท่อเจาะคอเปียกหรือสกปรก อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
4. ผู้ป่วยสามารถพูดออกเสียงเพื่อสื่อสารกับผู้อื่นได้ โดยการใช้ปลายนิ้วมืออุดรูท่อหลอดลมคอก่อนพูด แต่เสียงจะไม่ดังมากและพูดเป็นประโยคได้สั้นกว่าเมื่อเทียบกับคนปกติ
5 . หากมีเสมหะมากและต้องการไอเอง ให้สูดลมหายใจเข้าเต็มที่ก่อนหายใจออกพร้อมกับไอออกมาแรงๆ
6 . ควรใช้ผ้าพันคอปิดรูของท่อหลอดลมคอ เพื่อข้องกันสิ่งแปลกปลอมหรือฝุ่นละอองเข้าหลอดลม
7 . ผู้ป่วยสามารถอาบน้ำและสระผม่ได้ตามปกติ แต่ควรระวังน้ำกระเด็นเข้ารูห่อหลอดลมคอ นอกจากนี้ผู้ป่วยควรงดว่ายน้ำ ดูเล่นน้ำและงดูเดินทางทางน้ำ เนื่องจากจะทำให้เสียชีวิตจากการสำลักน้ำได้
8 . หากเดินทางออกนอกบ้าน ควรเตรียมห่อชั้นในที่ทำความสะอาดแล้วไปเปลี่ยนด้วย
9 . รับประทานอาหารได้ตามปกติ
10 . ไม่ควรเปลี่ยนเชือกผูกท่อหลอดลมเอง หากเชือกหลุดหรือเปื้อนควรมาเปลี่ยนที่โรงพยาบาล
11. แพทย์จะถอดท่อหลอดลมคอออกก็ต่อเมื่อได้รักษาสาเหตุของโรคที่ทำให้ต้องเจาะคอแล้ว
ข้อควรปฏิบัติสำหรับผู้ป่วยที่ใส่ท่อหลอดลมคอ
1. ดื่มน้ำมากๆ
2. ดูแลร่างกายให้อบอุ่น หลีกเลี่ยงในที่อากาศเย็นหรือแห้งจัด
3.ไม่คลุกคลีกับคนที่เป็นหวัด หรืออยู่ในที่ชุมชนแออัด
4. ป้องกั๋นสิ่งแปลกปลอมเข้าท่อหลอดลม โดยใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดคอไว้ เวลาออกนอกบ้าน
5. ไม่ดูดเสมหะภายหลังรับประทานอาหารทันที เพื่อป้องกันการอาเจียน
6. สามารถออกเสียงพูดโดยการช้นิ้วปิดท่อไว้ขณะพูด
ขั้นตอนการทำความสะอาดแผลท่อหลอดลมคอ
1. ดึงผ้าก๊อซที่รองใต้ท่อหลอดลมคอออก
2. ล้างมือให้สะอาด
3.ใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์หรือน้ำเกลือล้างแผล เช็ดผิวหนังรอบๆ ท่อหลอดลมคอ
4. ใช้ไม้พันลำสีชุบน้ำเกลือหรือน้ำตัมสุก เช็ดใต้ท่อหลอดลมคอทั้งด้านบนและด้านล่างให้สะอาด
5. สอดผ้าก๊อซที่ตัดเป็นรูปตัว Y รองใต้ท่อหลอดลม
6. ปิดพลาสเตอร์บริเวณชายผ้าก๊อซด้านล่าง
วิธีทำความสะอาดท่อหลอดลมคอ
1. ล้างมือให้สะอาดและเช็ดให้แห้ง
2 . มือข้างที่ไม่ถนัดจับท่อหลอดลมคอชั้นนอก สวนมือข้างที่ถนัดหมุนล็อคช้าๆ และถอดห่อหลอดลมคอชั้นในจากคอแช่น้ำทิ้งไว้ 5-10 นาที
3. ล้างห่อชั้นในด้วยสบู่ ผงซักฟอกหรือน้ำยาล้างจานทั้งด้านนอกและด้านใน แปรงห่อด้านในด้วยแปรงขนาดเล็ก
จนกว่าเสมหะหลุดออกหมดและล้างด้วยน้ำให้สะอาด โดยการเปิดน้ำก๊อกให้ไหลผ่านภายในห่อหลอดลมคอ ถ้าเป็นท่อ
ชนิดพลาสติกระวังอย่าให้มีรอยถลอก
4 . นำท่อชั้นในชนิดโลหะต้มในน้ำเดือดนาน 30 นาทีแล้วนำขึ้นมาวางไว้ให้หายร้อน สำหรับชนิดพลาสติกให้แช่น้ำยาไฮโปคลอไรท์ 0. 5 % นาน 30 นาทีและล้างด้วยน้ำต้มสุกมากๆ จนแน่ใจว่าไม่มีน้ำยาเหลือค้างอยู่ในห่อ
การดูแลท่อหลอดลมคอ
1. ทำความสะอาดแผลเจาะคอ และเปลี่ยนผ้าก๊อซทุกวันอย่างน้อยวันละ 1 - 2 ครั้งหรือเมื่อเปียกแฉะ
2. ทำความสะอาดท่อหลอดลมชั้นใน วันละ 2 - 3 ครั้งขึ้นกับว่าเสมหะมากหรือเหนียวหรือไม่
อาการผิดปกติที่ต้องมาพบแพทย์
1. ท่อหลอดลมหลุด ท่อชั้นในหาย หรือใส่เข้าไม่ได้
2. หายใจลำบาก หอบเหนื่อย
3. มีการติดเชื้อที่แผลที่เจาะคอ เช่น ปวด บวม แดง มีหนอง
4. มีเลือดออกจากท่อหลอดลม หรือรอบ ๆ ท่อมีการติดเชื้อในปอด หรือหลอดลม เช่น ไอมาก เสมหะข้น และมีไข้ร่วม
อ้างอิงจาก
https://www.rajavithi.go.th/rj/wp-content/uploads/2019/01/A1-2019.pdf
http://www.med.nu.ac.th/dpMed/fileKnowledge/291_2021-07-19.pdf